กำหนดการเดินทาง |
ผู้ใหญ่พัก 2-3 ท่าน ท่านละ |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี (เสริมเตียง) ท่านละ |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี (ไม่เสริมเตียง) ท่านละ |
ไม่รวมตั๋ว ท่านละ |
พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ |
8-18 ก.พ. 63 | 66,900.- | 66,900.- | 66,900.- | 44,045.- | 8,900.- |
4-14 มี.ค. 63 | 66,900.- | 66,900.- | 66,900.- | 44,045.- | 8,900.- |
10-20 เม.ย. 63 | 86,900.- | 86,900.- | 86,900.- | 50,765.- | 7,900.- |
6-16 พ.ค. 63 | 73,900.- | 73,900.- | 73,900.- | 51,045.- | 7,900.- |
20-30 พ.ค. 63 | 73,900.- | 73,900.- | 73,900.- | 51,045.- | 7,900.- |
19-29 มิ.ย.63 | 73,900.- | 73,900.- | 73,900.- | 51,045.- | 7,900.- |
วันที่ 1 :: | กรุงเทพฯ |
22.30 น. |
คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินไทย ประตู 4 แถว H พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก |
วันที่ 2 :: | กรุงเทพ – เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – ซาลส์บวร์ก |
01.20 น. |
ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยเที่ยวบินที่ TG 936 |
07.15 น. |
ถึงสนามบินเวทชาท กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั๋วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 6 ชั๋วโมงในวันที่ 27 ตุลาคม 2562) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นนำเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปีค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
บ่าย |
เดินทางสู่เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองอันเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก นำเที่ยวชมความงามของเมืองซาลส์บวร์กที่มีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เขตเมืองเก่าศิลปะบารอคที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน ชมสวนดอกไม้มิราเบล(Mirabell Garden) ซึ่งเป็นฉากหนึ่งในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รักเพลงสวรรค์” (The Sound of Music) ที่โด่งดังไปทั่วโลก |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
วันที่ 3 :: | ซาลส์บวร์ก – ฮัลสตัท – มิวนิค |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนี จึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ นำชมจัตุรัสมาเรียน พลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ในช่วงฤดูร้อน อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมและของที่ระลึกตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย |
วันที่ 4 :: | มิวนิค –โฮเฮนชวานเกา - ปราสาทนอยชวานสไตน์ – ฟุสเซ่น |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน) |
บ่าย |
จากนั้นเดินทางสู่เมืองฟุสเซ่น (Fussen) เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติกที่เคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมัน และได้ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้า และซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
วันที่ 5 :: | ฟุสเซ่น - ลูเซิร์น – สะพานไม้ชาเปล - อินเทอร์ลาเคน |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
บ่าย |
ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River)อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น หลังจากนัน้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (ฟองดูร์ชีส) |
วันที่ 6 :: | อินเทอร์ลาเคน – กรินเดอร์วาล – ยอดเขาจุงเฟรา– มิลาน |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย |
นำคณะเดินทางลงจากยอดเขาโดยไม่ซ้ำเส้นทางเดิมให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและแตกต่างกันจนถึง สถานีรถไฟเมืองลาวท์เทอบรุนเนิน (Lauterbrunnen)หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
วันที่ 7 :: | มิลาน – เวนิส – เมสเตร้ |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (สปาเกตตี้หมึกดำ) |
บ่าย |
นำท่านเดินทาง สู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น "ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก" มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ( Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค (St.Mark’s Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โค, ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720 สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ Venice Mestre |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
วันที่ 8 :: | เมสเตร้ – ฟลอเรนซ์ – ปิซ่า – หอเอนปิซ่า |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
บ่าย |
นำท่านเดินทางสู่เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์ เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของ นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า () สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง |
วันที่ 9 :: | ปิซ่า – โรม – สนามกีฬาโคลอสเซียม - วาติกัน |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
กลางวัน |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
บ่าย |
นำท่านเดินทางพาท่านเข้าสู่นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด นำท่านชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica) ชมประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า (Pieta) ของมิเคลันเจโลและชมแท่นบูชาบัลแดคคิโน (St. Peter's Baldachin) เป็นซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
วันที่ 10 :: | โรม – สนามบิน |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
13.55 น. |
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TG 945 |
วันที่ 11 :: | กรุงเทพ |
05.45 น. |
เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ |
จองทริปนี้
กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างให้ครบถ้วนเพื่อความรวดเร็วในการติดต่อกลับไปหาท่าน